Creative Drawing and Community

กลุ่ม ฮิปโปน่อยๆๆๆค๊าบบบ...
แนวคิดและแรงบันดาลใจของกลุ่ม
    กลุ่มของเราได้รับแรงบันดาลใจจากร้านอาหารตามสั่งเล็กๆที่ตั้งอยู่ริมถนนไปกลับระหว่างหอพักกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ของเรา ซึ่งเป็นร้านประจำของเรานั่นเอง อาหารที่ถูกปาก (แบบว่าอร่อยเหาะไปเลย) และชาเลิศรส รวมถึงน้ำดื่มที่เป็นน้ำชาหอมๆ ให้จิบผ่อนคลายก่อนรับประทานอาหารที่นั่น ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆอยู่ริมถนน ฉะนั้นรถที่ไม่ได้สังเกตก็จะขับผ่านไปไม่เหลียวแลนัก แต่ถ้าหากได้ลิ้มรสลองชิมฝีมือของป้าหมวยละก็ รับรองติดใจไปจนตาย เสารักฟันธง!! ประเด็นก็คือที่เราสนใจก็คือการผ่อนคลายก่อนรับประทานอาหารจากชา(ฟรี) เราเลยมีความคิดที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกดี และสบายใจก่อนรับประทานอาหาร โดยจะ Drawing เรื่อง กลิ่นกันค่ะ

CONCEPT
  เราจะใช้ใบเตยที่มีกลิ่มหอมซึ่งสามารถช่วยในการผ่อยคลายและสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานของเราแล้ว ไปติดตั้งในร้านตามมุมที่เราเห็นว่าเหมาะสม เเละสร้างบรรยากาศให้รื่นรมย์ให้กับลูกค้าก่อนจะรับประทานอาหารอย่างสบายใจเฉิบค่ะ ^^


เทคนิคและวัสดุอุปกรณ์
 วัสดุและอุปกรณ์
 ใบเตย
ผ้าเช็ด
แม็คเย็บ
เชือก
กรรไกร

เทคนิคในการทำ
เราใช้เทคนิคสานที่มีให้เห็นอยู่ทั่วไปจากผู้เฒ่าผู้แก่เสมอมาจำทำชิ้นงาน ไม่ว่าจะเป็นปลาสานจากใบเตย และการสานให้ใบเตยเป็นผืนใหญ่ๆ ก่อนจะทำการติดตั้งในพื้นที่นำเสนองานจริงค่ะ


ขั้นตอนการทำงานกับพื้นที่
หลังจากที่เราตกลงกันได้แล้วว่าสนใจที่ไหน เราก็ตรงดิ่งไปที่นั่นทันทีก่อนจะพูดคุยกับเจ้าของสถานที่ ซึ่งถือว่ากลุ่มเราโชคดีมาก เพราะป้าหมวย ผู้เป็นเจ้าของร้านป้าหมวยอาหารตามสั่ง เป็นคนที่ใจดีมาก พูดคุยอย่างเป็นกันเอง แถมยังชงชาเย็นให้เราชิมแก้วใหญ่อร่อยมากเลย (ฟรีซะด้วย) หลังจากที่เราพูดคุยกับป้าหมวยและป้าเค้าตกลงให้เราทำงานที่ร้านได้ เราก็เดินสำรวจร้าน(ที่เห็นอยู่ทุกวัน) อย่างละเอียดอีกครั้ง เก็บข้อมูล และก่อนกลับเราก็กลับออกไปขอบคุณป้าเค้าอีกครั้งนึงอย่างสุดซึ้งที่ให้ความร่วมมือกับเราแล้วก็ขอบคุณสำหรับชาแก้วใหญ่อีกรอบนึง ขอบคุณค่า า าา  ^^

ตะลุยตลาด!!
หลังจากที่เราเดินตามหาใบเตยรอบๆหอพักจากชาวบ้านแล้ว ไม่พบเจอพืชที่มีชื่อว่าใบเตยเลยจริงๆ จึงปรึกษาหารือกัน และได้ข้อสรุปว่าต้องออกไปหาซื้อแล้วล่ะ ก็พอดีที่เจ้าของร้านขายของชำแนะนำให้ไปซื้อที่กาดเมืองงใหม่ เราจึงตรงไปที่นั่นเลยทันทีเพื่อตามล่าหาใบเตยกัน ท่ามกลางแสงแดดแผดเผาและไอระอุ(ร้อนมากกก) แต่เราก็ได้มันกลับมา พร้อมกับปลาทู (อันนี้ไม่เกี่ยว55) พร้อมกับรอยยิ้มและเหงื่อจ้า ^.,^

                                                            ภาพ ณ เวลา ขณะนั้น

                                                    เหรัญญิกบันทึกรายการการซื้อวัตถุดิบ



                                       

 พอได้ของที่ต้องการแล้ว เราก็กลับมาจัดการกับของที่ได้เลยทันที ทั้งตัด เช็ด ฉีก และสาน แบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบคนละส่วน ก่อนจะเเยกย้ายกันในตอนเย็นและกลับมาเจอกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น (มีเสียงบ่นๆมาตามสายว่านี่มันโรงงานนรกชัดๆ 55 ไม่จริงเลยยย)

ขั้นตอนการตัดแยกใบ

เช็ดและตัดเป็นแผ่นเล็กๆ

 กว้างประมาณ 1.5ซม. ยาว 15 ซม.

 พับเเล้วแม็กให้ความยาวประมาณ 5 ซม.

สานให้เป็นแผ่น

และจะได้เป็นลายสวยๆแบบนี้

สุดท้ายสานปลาตะเพียน

นอกสถานที่ ช่วงเวลาติดตั้งงานและสรุปงาน

 ภาพงานที่ติดตั้งเสร็จ

    สรุปงาน ในตอนแรกที่พวกเราคุยกัน รูปแบบชิ้นงานไม่ได้เป็นแบบนี้แต่เราประสบปัญหาระหว่างทำ จึงต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมมากขึ้น จึงได้ออกมาเป็นดังภาพ ปัญหาอีกประการหนึ่งของเราก็คือกลิ่นที่เริ่มอ่อนแรงลง...ให้พอให้ได้กลิ่นอยู่นิดๆ ซึ่งน่ากลัวถ้ามันจะหมดไป เพราะกลุ่มเรา concept คือ กลิ่น!! แต่ยังไงพวกเราก็ได้ทำกันอย่างเต็มที่เเละสุดฝีมือกันแล้ว คุณลุงเจ้าของร้านบอกว่า "มองใกล้ๆตาลาย แต่มองไกลๆแล้วสวยดี"  และอีกประโยคหนึ่งที่ชอบมากก็คือ วันนี้เรามีชาใบเตยมาเสริฟ (แกล้อกับกลิ่นของใบเตย) ขอบคุณคุณลุงกับคุณป้าเจ้าของร้านที่อนุญาตให้เราได้ใช้สถานที่ค่ะ ^^

ความรู้สึกของพวกเรา!!

   ตั้งแต่เริ่มกระบวนการรังสรรค์ความคิดจากในห้องเรียนตอนนั้นสนุกและตื่นเต้นมากเลยค่ะที่ได้รู้ว่าจะได้ทำงานกับชุมชน จนเลยมาถึงอาทิตย์ที่มีการสัมมนากับรุ่นพี่และอาจารย์ผู้ใหญ่ จำได้ว่าอาทิตย์นั้นได้เยอะแต่ก็วุ่นเยอะเหมือนกัน เพราะข้อแนะนำของแต่ละท่านนั้นน่าสนใจมากทำให้กลุ่มเป๋ไปทางนั้นมั่งทางนี้มั่ง จนในที่สุดต้องมานั่งจับเข่าคุยกันอีกหลายรอบ ข้อถกเถียงกันนั้นเยอะเลยทีเดียว แต่ที่เด่นชัดที่สุดที่จำขึ้นใจเลยนั้นก็คือ เงินและเวลา งบประมาณที่เราต้องใช้นั้นสำคัญนัก เราจึงได้ข้อสรุปมาว่าจะทำเรื่องเดิมเเละตัดทอนสิ่งที่คิดว่าไม่จำเป็นออกไปจนหมด วันนั้นทั้งเหนื่อยและเพลียมากเพราะใช้ความคิดกันเยอะ แต่ก็คุ้มที่ได้ทำ จากนั้นเราก็เริ่มกระบวนการเตรียมการและลงมือทำชิ้นงาน ทุกคนดูจะสนุกกับมัน ไม่เครียดเลย (ถึงแม้จะมีเสียงบ่นว่าโรงงานนรกมั่ง หรือแอบอู้งานมั่ง ก็ไม่ว่ากัน 55) มีเสียงแคนดังมาให้ได้ยินอย่างสบายในอารมณ์ หลังจากช่วยกันทำจนเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วก็รู้สึกภูมิใจที่งานสำเร็จมาได้ด้วยดี ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านและพี่ๆที่ให้คำแนะนำพวกเราค่ะ แล้วก็ขอขอบคุณ ป้าหมวยอาหารตามสั่งอย่างสุดซึ้งที่ให้เราได้ใช้สถานที่ค่ะ

......................................................................

กลุ่มฮิปโปน่อยๆๆๆค๊าบบบ

มุ่งไปยังเป้าหมาย!!!

ร้านป้าหมวย อาหารตามสั่ง!

หลังจากที่ตกลงกันแล้วเราก็ได้สถานที่ร่วมแสดงงานนั่นก็คือ ร้านอาหารตามสั่งริมถนนเล็กๆ แต่ว่ารสชาติอร่อยมาก ก กก  เราจึงมุ่งตรงไปที่ร้านนั้นทันที (รู้จักกันดีเพราะถูกปากยกกลุ่ม ฮี่ๆ) และพูดกันกับคุณป้าเจ้าของร้าน และผลก็คือ ป้าบอกว่าอยากทำอะไรทำได้หมดเรย เราก็สอบถามความต้องการของป้าว่าอยากได้อะไรไหม หลังจากนั้นเราก็ทั้งนั่งชมและนั่งชิมฝีมือการชงชาของป้าแก อร่อยจับใจจนถึงทุกวันนี้เลยเชียวล่ะ >.<

  หลังจากนั้นเราก็กลับมาปรึกษาหารือกันว่าจะทำยังไง ตรงไหนบ้าง ซึ่่งพอเขียนออกมาแล้วยาวเป็นหางว่าวเลยทีเดียว ก็เลยต้องขีดฆ่าทิ้งทีละอันสองอันจนเหลือไม่กี่อย่าง และเริ่มนัดหมายการทำงานตามที่ตกลงกันไว้

ป้าหมวย เจ้าของร้าน

ร้านป้าหมวยอาหารตามสั่ง

                                                   ชาแก้วใหญ่ (ฟรี) กับการลิ้มรสของสี่เกลอ

                             ขอปิดท้ายด้วยรูปสวยๆของหัวหน้ากลุ่มที่หนีอู้ไปคุยโทรศัพท์ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ

กลุ่ม ฮิปโปน่อยๆๆๆค๊าบบบ..... (ลากเสียงยาวนิดๆ)
เป็นชื่อกลุ่มที่ไม่รู้ว่าตั้งชื่อนี้ขึ้นมาได้ยังไงกัน แต่ก็ลงมติเป็นเอกฉันท์แล้วล่ะนะ

 รวมกลุ่มกันเพื่อจัดทำงานศิลปะ ในหัวข้อ ศิลปะกับชุมชน

   เริ่มต้นที่สุดเลย อาจารย์ มรกต   เกศเกล้า (สวยและใจดีด้วย :D ) ให้แต่ละคนเสนอไอเดียว่าจะทำงานตามหัวข้อยังไง ตอนแรกก็ไม่มีอะไรมาก ความคิดใครนำเสนอไป หลังจากนั้นก็ให้รวมกลุ่มกัน นำแนวคิดทั้งหมดมารวมกันให้ออกมาเป็นงาน และร่วมกันคิด concept และปรึกษากันว่าจะทำงานที่ไหน วางแผนและตกลงกันให้ได้ อันนี้มึนมากเพราะเเต่ละคนแนวคิดไม่เหมือนกันเลย ต้องตีกันจนหัวแทบแตก (ตีความคิดนะ อิอิ) จึงจะสรุปได้ว่าจะทำที่ไหน ยังไงค่ะ เหนื่อยมากแต่ก็มันส์มาก ก กกเหมือนกัน



สัมมนากลุ่ม!!!

   หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์....ป๊ะกันที่บ้าน อาจารย์เทพศิริ   สุขโสภา
ร่วมสัมมนากลุ่มกัน โดยมี ท่านอ.เทพศิริ  อ.พิศาล และรุ่มพี่อีกสี่คน มาช่วยตีความคิดให้แตกกระจาย และตีวนให้เข้ากัน แต่ละกลุ่มก็ขะมักขะเม้นในการพูดคุย แต่ละท่านแต่ละคนก็ให้แนวคิดที่แตกต่างกันมา ซึ่งกระบวนการนี้ดีมาก ชอบๆๆ ถึงจะล้าสมองในตอนหลังก็ตาม 55 ขอขอบคุณอาจารย์ทั้งสองท่าน และรุ่นพี่อีกสี่ท่าน รวมถึงอาจารย์มรกต   เกศเกล้า ที่ให้คำแนะนำดีๆมากมายค่ะ

                                     
                                 ภาพ อ.เทพศิริกำลังรับฟังแนวคิดของกลุ่ม